น้ำเต้าหู้เป็นอาหารยอดนิยมที่ได้จากถั่วเหลือง ทำโดยการนำนมถั่วเหลืองสดมาทำให้เป็นก้อนแข็งกดลงในก้อนแข็งแล้วทำให้เย็นลงเช่นเดียวกับการทำชีสนมแบบดั้งเดิมโดยการทำให้นมเปรี้ยวและแข็งตัว ของเหลว (หางนม) จะถูกทิ้งและนมเปรี้ยวจะถูกกดเพื่อสร้างพันธะที่เหนียวแน่น
วัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารไทยและจีนสามารถปรุงได้หลายวิธีเพื่อเปลี่ยนเนื้อสัมผัสจากเนียนนุ่มเป็นกรอบและกรุบ
น้ำเต้าหู้มีต้นกำเนิดในประเทศจีนเช่นเดียวกับอาหารจำพวกถั่วเหลือง ตำนานเล่าว่าค้นพบเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้วโดยพ่อครัวชาวจีนที่ทำนมถั่วเหลืองโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อเขาเติมสาหร่ายนิการิ น้ำเต้าหู้ถูกนำเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 8 เดิมเรียกว่า “okabe” ชื่อที่ทันสมัยไม่ได้ถูกนำมาใช้จนถึงปี 1400 ในปี 1960
ความสนใจในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพดีสร้างได้ได้นำน้ำเต้าหู้ไปสู่ชาติตะวันตก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์มากมายที่ถั่วเหลืองและน้ำเต้าหู้สามารถให้ได้
จุดเด่นทางโภชนาการ น้ำเต้าหู้เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและมีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งเก้าชนิด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพืชที่มีคุณค่าของธาตุเหล็กและแคลเซียมและแร่ธาตุแมงกานีสและฟอสฟอรัส นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียมทองแดงสังกะสีและวิตามินบี 1
อาหารที่ยอดเยี่ยมจากมุมมองทางโภชนาการและสุขภาพดีสร้างได้นั้นคิดว่าน้ำเต้าหู้ให้ประโยชน์มากมายเช่นเดียวกับถั่วเหลือง
และอยากจะบอกอีกอย่างว่าน้ำเต้าหู้เป็นน้ำที่ลงทุนน้อยและได้ผลกำไรที่งดงามมากๆ เชื่อว่าผู้ขายหากว่านำน้ำเต้าหู้มาขายแบบนึ้คิดว่าจะเป็นเรื่องดีมากๆ เพราะว่าต้นทุนตกถุงละไม่เกิน 2-3 บาทแต่ขายถุงละ 10 บาทได้